ดัชนีราคาเป็นพารามิเตอร์ที่แจ้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาจากช่วงเวลาหนึ่งไปอีกช่วงเวลาหนึ่ง ดัชนีราคาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดอัตราส่วนหรือการเปรียบเทียบราคาในแต่ละช่วงเวลา
ดัชนีราคาคำนวณโดยโควต้าหรือกลุ่มตัวอย่างคงที่ไม่ใช่ตามจำนวนประชากร ดัชนีราคาคำนวณจากช่วงเวลาหนึ่งถึงช่วงเวลาก่อนหน้าและคำนวณจากช่วงเวลาที่มีสภาวะเศรษฐกิจคงที่หรือมีเสถียรภาพ
วัตถุประสงค์ดัชนีราคา
มีวัตถุประสงค์หลายประการในการจัดทำดัชนีราคาตามประเทศ ประการแรกดัชนีราคาถูกใช้เป็นตัวบ่งชี้เพื่อวัดจำนวนกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยทั่วไป ดัชนีราคายังสามารถให้ภาพรวมของแนวโน้มการซื้อขายและเป็นแนวทางในการตัดสินใจค่าเงินเดือนและดัชนีค่าครองชีพ
(อ่านเพิ่มเติม: การทำความเข้าใจเศรษฐศาสตร์)
บริษัท ต่างๆสามารถใช้ดัชนีราคาเพื่อซื้อวัสดุหรือสินค้าได้ในราคาที่ต้องการ สวัสดิการของเกษตรกรสามารถดูได้จากดัชนีราคาเกษตรกร ในที่สุดดัชนีราคาสามารถใช้ในการกำหนดราคาและกำหนดปริมาณสินค้าที่หมุนเวียนในตลาดโดยผู้ค้า
วิธีการคำนวณดัชนีราคา
ในการคำนวณดัชนีราคามีวิธีการคำนวณสองประเภท ได้แก่ วิธีการรวมแบบง่าย (ไม่ถ่วงน้ำหนัก) และวิธีการถ่วงน้ำหนัก
วิธีการรวมอย่างง่ายประกอบด้วยตัวเลขดัชนีราคาตัวเลขดัชนีปริมาณและตัวเลขดัชนีมูลค่า
เลขดัชนีราคา (P) มีสูตรดังต่อไปนี้
IA = ดัชนีราคาที่ไม่ได้ถ่วงน้ำหนัก
Pn = ราคาที่คำนวณสำหรับหมายเลขดัชนี
P0 = ราคาในปีฐาน
เลขดัชนีปริมาณ (Q) สามารถกำหนดได้ดังนี้
IA = ดัชนีปริมาณที่ไม่ได้ถ่วงน้ำหนัก
Qn = ปริมาณที่คำนวณเลขดัชนี
Q0 = ปริมาณในปีฐาน
เลขดัชนีค่า (V) มีสูตรดังต่อไปนี้
IA = ค่าดัชนี
Vn = ค่าที่คำนวณเลขดัชนี
V0 = มูลค่าในปีฐาน
วิธีการไม่ถ่วงน้ำหนักประกอบด้วยวิธีการรวมอย่างง่ายวิธี Laspeyres วิธี Paasche วิธี Drobisch และ Bowley และวิธี Irving Fisher
วิธีการรวมอย่างง่ายสามารถกำหนดได้ดังนี้
IA = ค่าดัชนี
Pn = ค่าที่คำนวณเลขดัชนี
P0 = มูลค่าในปีฐาน
W = ปัจจัยการถ่วงน้ำหนัก
ในขณะเดียวกันวิธี Laspeyres สามารถใช้ได้กับสูตรต่อไปนี้
IL = หมายเลขดัชนี Laspeyres
Pn = ราคาในปีที่คำนวณเลขดัชนี
P0 = ราคาในปีฐาน
Q0 = ปริมาณในปีฐาน
วิธี Paasche มีสูตรดังต่อไปนี้
IP = หมายเลขดัชนี Paasche
Pn = ราคาในปีที่คำนวณเลขดัชนี
P0 = ราคาในปีฐาน
Qn = ปริมาณในปีที่คำนวณดัชนี
วิธี Drobisch และ Bowley สามารถใช้ได้กับสูตรต่อไปนี้
ID = ดัชนีราคา Drobisch
IL = ดัชนีราคา Laspeyres
IP = ดัชนีราคา Paasche
สุดท้ายวิธีการของ Irving Fisher ถือว่าเหมาะที่สุด วิธีนี้ใช้สูตรต่อไปนี้
IF = ดัชนีราคา Irving Fischer
IL = ดัชนีราคา Laspeyres
IP = ดัชนีราคา Paasche